กองทัพภาคที่ 3 ร่วมกับจังหวัดเชียงใหม่จัดกิจกรรม คิกออฟ กิจกรรมรณรงค์และซักซ้อมดับไฟป่า ประจำปีงบประมาณ 2561 ประจำปีงบประมาณ 2561 หวังบูรณาการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ลดปัญหาไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ภาคเหนือ
30 ม.ค.61 พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาคเป็นประธานเปิด กิจกรรมรณรงค์และซักซ้อมดับไฟป่า ประจำปีงบประมาณ 2561 ร่วมกับนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ ณ สนามรามัญวงศ์ กองพลทหารราบที่ 7 อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ โดยกิจกรรมการรณรงค์ดังกล่าวได้รับความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ที่เป็นคณะกรรมการการ แก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันของจังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งหน่วยทหารในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ สถาบันการศึกษาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และที่สำคัญคือเครือข่ายภาคประชาชนชาวเชียงใหม่กว่า 40 องค์กรที่พร้อมใจกันมาร่วมกิจกรรมในครั้งนี้
กิจกรรมที่น่าสนใจในการรณรงค์และซักซ้อมดับไฟป่าครั้งนี้ก็คือ การโชว์ศักยภาพของหน่วยงานที่ร่วมบูรณาการในการป้องกันและการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันที่ร่วมกันตั้งแต่ระดับประชาชนไปจนถึงหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องทุกภาคส่วน โดยเฉพาะในปีนี้ทางกองทัพบก ได้เพิ่มศักยภาพในการดับไฟป่าด้วยการนำเอา เฮลิคอปเตอร์ MI17ที่มีสมรรถนะเป็นเฮลิคอปเตอร์ขนาดกลางแบบแกนใบพัดเดี่ยว เครื่องยนต์เทอร์โบ ใช้กำลังเครื่องยนต์ 2,000 แรงม้า ความเร็วสูงสุด 139 ไมล์ต่อชั่วโมง บินได้นาน 3 ชั่วโมง 10 นาที สามารถติดตั้งอุปกรณ์ดับไฟ Bambi Bucket บรรจุน้ำได้ 5,000 ลิตร มาเสริมในการปฏิบัติการดับไฟป่าร่วมกับเฮลิคอปเตอร์ EURO COPTER เป็นเฮลิคอปเตอร์ของศูนย์ปฏิบัติการบินที่ 2 เชียงใหม่ ภายใต้การควบคุมของกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย
พลโท วิจักขฐ์ สิริบรรสพ แม่ทัพภาคที่ 3 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันระดับภาค กล่าวว่าตามที่รัฐบาล ได้จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันแห่งชาติ และกองทัพบกได้มอบหมายให้ กองทัพภาคที่ 3 จัดตั้งศูนย์อำนวยการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ระดับภาค เพื่ออำนวยการ ประสานงานกับส่วนราชการ รวมทั้งองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อป้องกันการเกิดไฟป่าและหมอกควันในพื้นที่ 9 จังหวัดภาคเหนือนั้น ในการปฏิบัติที่สำคัญ จะมีการจัดชุดรณรงค์สร้างจิตสำนึก ให้ความรู้ความเข้าใจแก่ราษฎร รวมทั้งเฝ้าระวังการแจ้งเตือนการเกิดไฟป่า และป้องกันมิให้เกิดไฟป่าขั้นรุนแรงในพื้นที่รับผิดชอบ ตั้งแต่ 1 ธันวาคม 2560 ถึง 30 เมษายน 2561 รวม 5 เดือนโดยมุ่งเน้นในการแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควัน ไม่ให้ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชน การคมนาคมทั้งทางบกและทางอากาศ ตลอดจนสภาวะเศรษฐกิจในพื้นที่ภาคเหนือ ซึ่งปีนี้ได้มีการตั้งเป้าหมายในการที่ลดพื้นที่การเกิด Hot Spot ลง40%
ด้านนายปวิณ ชำนิประศาสน์ ผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่กล่าวว่าในปีที่ผ่านมาจังหวัดเชียงใหม่มี Hot Spot จำนวน 904 จุด มีพื้นที่เผาไหม้ถึงกว่า 800,000 ไร่ และมีวันที่มีค่าอากาศเกินค่ามาตรฐาน 4 วัน ซึ่งปีนี้จะต้องมีการรณรงค์ให้ลดลงกว่าปีที่ผ่านมา ดังนั้นทางจังหวัดเชียงใหม่จึงได้เริ่มดำเนินการการป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่าและหมอกควันมาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2560 เป็นต้นมา และในช่วงเดือนกุมภาพันธ์จะเป็นช่วงในการลดจำนวนเชื้อเพลิงที่จะทำให้เกิดไฟป่า เช่นการชิงเผา หรือนำเอาไปแปรรูปทำเป็นปุ๋ย โดยมีนักวิชาการจากมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ และ มหาวิทยาลัยแม่โจ้คอยให้คำปรึกษาถึงวิธีการที่เหมาะสมก่อนที่จะมีการประกาศห้ามเผาโดยเด็ดขาดในช่วงวันที่ 1มีนาคม – 20 เมษายน 61